"ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล เปิดบ้านไล่ถล่ม เอฟซี ปอร์โต้ 4-0 รวมผลสองนัด พลิกกลับมาเอาชนะ 5-2 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 เมื่อคืนที่ผ่านมา
ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกรอบ 16 ทีมนัดสอง
อาร์เซน่อล (อังกฤษ) 5 - 0 เอฟซี ปอร์โต้ (โปรตุเกส)
(รวมผลสองนัด อาร์เซน่อล เข้ารอบด้วยประตูรวม 6-2)
สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
อาร์เซน่อลบุกไปพลาดท่าแพ้มา 1-2 ในนัดก่อน และเกมนี้ไม่มีเชส ฟาเบรกาสซึ่งบาดเจ็บ ปลอกแขนกัปตันจึงตกอยู่กับมานูเอล อัลมูเนีย ขณะที่ธีโอ วัลค็อตต์มีชื่อเป็นเพียงตัวสำรอง
ด้านเอฟซี ปอร์โต้ซึ่งผลงานในนัดเยือนเมืองผู้ดีย่ำแย่แม้จะปราศจากแฟร์นานโด แต่ก็ส่งคีย์แมนที่ได้พักในเกมลีกนัดล่าสุดหลายชีวิตลงบู๊ครบครันโดยเฉพาะกองหน้าฮัลค์ที่ถูกแบนในลีกฝอยทองสี่เดือน
หลังได้เริ่มเขี่ยบอล อาร์เซน่อลก็เปิดฉากลุยทันที และได้เสียวในนาทีที่ 7 เมื่อซามีร์ นาสรี่ทำชิ่งกับโธมัส โรซิชกี้จนกองกลางฝรั่งเศสหลุดไปเข่นในกรอบเขตโทษระยะ 10 หลา แต่ถูกแผงหลังทีมเยือนเข้าบล็อคได้ทัน
ถัดมาอีกสองนาที แฟนปืนโตก็ต้องกุมศีรษะด้วยความเสียดายเมื่อบาการี่ ซาญ่าเปิดลูกยาวจากกราบขวาไปเสาไกลให้อังเดร อาร์ชาวินโถมโขกระยะหกหลา ทว่าเอลตันปัดทิ้งได้สำเร็จ
อย่างไรก็ดี นาทีที่ 10 เจ้าบ้านก็คลำเป้าจนได้เมื่อนาสรี่ไหลบอลทะลุช่องเข้าเขตโทษ แม้อาร์ชาวินจะสปีดเข้าชาร์จถูกบล็อคได้ แต่เอลตันก็ออกมาชนกับฟูซิเล่พอดี จึงเปิดทางให้นิคลาส เบนด์เนอร์เข้าเก็บตกส่งบอลจาก 12 หลาเข้าประตูพาอาร์เซน่อลขึ้นนำ 1-0
สถานการณ์ของเอฟซี ปอร์โต้ยังไม่สู้ดี และนาทีที่ 18 จากลูกเตะมุมด้านขวาของปืนใหญ่ อาบู ดิยาบี้ก็ได้วอลเลย์จาก 15 หลา แต่จังหวะไม่ดีพอบอลจึงโด่งข้ามคาน
จากนั้นในนาทีที่ 23 ฟัลเกาไปเข้ารวบอเล็กซ์ ซงแถวกลางสนามจึงได้ใบเหลือง แถมอีกสองนาทีต่อมา กองหลังอาคันตุกะก็พลาดง่ายๆจ่ายบอลในแดนตัวเองไปเข้าทางอาร์ชาวินเลยถูกสตาร์รัสเซียโชว์ความสามารถเฉพาะตัวแหวกด่านแนวรับปอร์โต้จนหลุดเข้าเขตโทษด้านซ้ายก่อนจะป้ายบอลมาหน้าประตูให้เบนด์เนอร์เข้าชาร์จสบายบรื๋อจากสี่หลาพาเดอะ กันเนอร์สหนีห่าง 2-0
อาร์เซน่อลยังเดินหน้าเอาใจสาวกต่อ และนาทีที่ 32 นาสรี่ก็ลากบอลขึ้นกราบซ้ายไปทำชิ่งกับดิยาบี้จนหลุดไปถึงเส้นหลังก่อนจะจ่ายบอลทะลุไปเสาไกล แต่อาร์ชาวินเข้าซัดระยะ 15 หลาโด่งออกไปอย่างน่าเสียดาย
เข้าสู่นาทีที่ 38 โธมัส แฟร์มาเล่นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟเจ้าบ้านก็รับใบเหลืองข้อหาเข้าสอยฟัลเกา
กระทั่งนาทีที่ 42 เบนด์เนอร์ก็หวังทำแฮททริค จึงลองตั้งป้อมซัดลูกโค้งจากหน้าเขตโทษกระดอนตกพื้นพุ่งเข้าหาเสาไกล ถูกเอลตันทะยานไปปัดได้
และจากลูกเตะมุมด้านขวาหนนี้ของทีมปืนใหญ่ ดิยาบี้ก็ขวิดจากระยะ 12 หลา แต่บอลพุ่งไปชนโคนเสาแรกกระดอนออกมา ก่อนที่เบนด์เนอร์จะรับใบเหลืองในนาทีที่ 44 จากจังหวะเสียบใส่ฟูซิเล่
เข้าสู่ช่วงทดเวลาเจ็บ อาร์เซน่อลยังไม่ยอมเพลาเกมรุก และมีเสียวอีกเมื่อโรซิชกี้เคาะบอลจากกราบขวาขวางสั้นๆมาให้นาสรี่สับไกจากหน้าเขตโทษ ทำเอาเอลตันต้องออกแรงพุ่งไปปัดอีก จบครึ่งแรกเจ้าบ้านจึงนำหน้า 2-0
ครึ่งหลัง ทีมจากลีกฝอยทองเปลี่ยนคริสเตียน โรดริเกซลงไปแทนนูโน่ โคเอลโญ่ และขึ้นเกมรุกได้ดีขึ้นกระทั่งมีโอกาสในนาทีที่ 54 จากจังหวะที่ฟัลเกาได้ลูกผ่านจากกราบซ้ายเข้าเข่นระยะ 14 หลาถูกอัลมูเนียเซฟได้
กระนั้นนาทีที่ 57 เจ้าบ้านก็เกือบทิ้งห่างเมื่อกองหลังปอร์โต้โขกสกัดลูกฟรีคิกด้านขวาออกมาเข้าทางปืนให้อาร์ชาวินพักอกแล้วตะบันเต็มข้อจากริมเขตโทษด้านซ้าย แต่เอลตันยังตะครุบได้ทัน
ถัดจากนั้นอาร์เซน่อลก็ส่งเอ็มมานูเอล เอบูเอ้ลงไปแทนโรซิชกี้ และถึงนาทีที่ 60 อัลวาโร่ เปไรร่าก็โดนจดชื่อจากการทำฟาวล์
ขยับมาอีกสองนาที ทีมเยือนได้เตะมุมด้านขวาแล้วโรลันโด้โดดโขกไปให้นาสรี่ที่คุมเสาอยู่สกัดได้อย่างเฉียดฉิว
อย่างไรก็ดี นาทีที่ 63 ทีมเจ้าบ้านก็ได้เฮอีกเมื่อนาสรี่โชว์ลีลาเลื้อยหนีสามกองหลังเข้าเขตโทษด้านซ้ายก่อนจะกดตูมจากมุมแคบแฉลบขาเอลตันทะลักไปชนเสาไกลเข้าประตูเพิ่มสกอร์ให้ทีมลอนดอนนำเป็น 3-0
เท่านั้นไม่พอ ล่วงมาอีกสามนาทีอาร์ชาวินก็แทงบอลให้เอบูเอ้หลุดเข้าเขตโทษด้านซ้ายไปแตะหลบเอลตันได้ก่อนจะซัดมุมแคบไม่เหลือ จึงเป็นอันว่าทีมเมืองผู้ดีหนีห่างเป็น 4-0
นาทีที่ 73 ทีมปืนใหญ่เปลี่ยนนาสรี่ออกให้เดนิลสันลงไปเสียบแทน และอีกสองนาทีต่อมาอาร์ชาวินก็โดนเปลี่ยนออกให้วัลค็อตต์ลงสนาม
พร้อมกันนี้ทีมเยือนก็ใช้งานเฟร็ดดี้ กวารินกับมาเรียโน่ กอนซาเลซแทนซิลแวสตร์ วาเรล่ากับรูเบน มิเชล
เจ้าถิ่นมาได้ประตูปิดท้าย จากการยิงลูกโทษของ นิคลาส เบนท์เนอร์ และก็เป็นแฮตทริกของเจ้าตัว จบเกม อาร์เซน่อล ถล่ม ปอร์โต้ขาดลอย 5-0 เข้ารอบสบายด้วยสกอร์รวม 6-2
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
อาร์เซน่อล: มานูเอล อัลมูเนีย (กัปตันทีม) - บาการี่ ซาญ่า, โซล แคมป์เบลล์, โธมัส แฟร์มาเล่น, กาแอล กลิชี่ - อเล็กซ์ ซง - ซามีร์ นาสรี่, อาบู ดิยาบี้ - โทมัส โรซิคกี้, อังเดร อาร์ชาวิน - นิคลาส เบนท์เนอร์
สำรอง: ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี้ (ผู้รักษาประตู) - มิกาแอล ซิลแวสตร์, เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, อาร์กม็องด์ ตราโอเร่, เดนิลสัน, ธีโอ วัลค็อตต์, เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา
เอฟซี ปอร์โต้: เฮลตัน - ฮอร์เก้ ฟูซิเล่, โรลานโด้, บรูโน่ อัลเวส, อัลวาโร่ เปเรร่า, นูโน่ โคเอลโญ่, รูเบน มิชาเอล, ราอูล เมยเรเลส - ซิลเวสเตร้ วาเรล่า, ฮัลค์ - ราดาเมล ฟัลเกา
สำรอง: นูโน่ (ผู้รักษาประตู) - เฟรดี้ กวาริน, เฟอร์นานโด เบลลุชชี่, คริสเตียน โรดริเกซ, มาเรียโน่ กอนซาเลซ, ไมค่อน, มิเกล โลเปส
ผู้ตัดสิน: ฟร้องก์ เดอ บลีกแกร์ (เบลเยี่ยม)